หน่วยที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
การกำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาเกิดจากการรวมกันของเทคโนโลยีโทรคมนาคม กับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สารสนเทศ หมายถึง ตัวเนื้อหาสาระของข้อมูลข่าวสารโดยใช้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่รวบรวม จัดเก็บปรับเปลี่ยนรูปแบบของสารสนเทศ ปัจจุบันมีการใช้คำว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตรงภาษาอังกฤษว่า Information and Communication Technology :ICT กันอย่างแพร่หลาย การสื่อสารไร้สายกำลังพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการใช้งานในรูปแบบใหม่ๆมากขึ้น โดยไม่ต้องอาศัยคอมพิวเตอร์ เช่น การทำธุรกิจต่างๆผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ M-Shopping การซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือ M-Banking การสั่งจากเงินหรือโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ M-Commerce ธุรกิจผ่านมือถือ ยังมี บริการสอบถามและแจ้งข้อมูลโทรศัพท์ซึ้งใช้ได้ 24ชั่วโมง เรียกว่าศูนย์ให้บริการ [Call Center] ในอนาคตไม่ไกลนัก เทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีการสื่อสารมีแนวโน้มจะรวมเข้าด้วยกัน จะเห็นได้จากโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ที่สามารถรับส่งอีเมล์ได้ คอมพิวเตอร์พกพาบางรุ่นสามารถใช้งานกับโทรศัพท์มือถือได้ด้วย การผสมผสานเทคโนโลยีทั้งสองด้านนี้เรียกว่า คอนเวอร์เจนซ์ [Convergence] ประวัติโดยย่อของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร -เทคโนโลยีโทรคมนาคม เริ่มจากการประดิษฐ์โทรเลขของแซมวล มอร์ส ในปี พ.ศ.2538 เป็นครั้งแรกที่ข่าวสารถูกเปลี่ยนเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งตามสายเป็นระยะทางไกลๆ ได้โดยอาศัยด้วยวิธีการเข้ารหัสตัวอักษร -เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เป็นผลมาจากการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือในการคำนวณ เริ่มจากเครื่องมือในการใช้คำนวณเครื่องแรก คือ ลูกคิด ที่สร้างขึ้นในประเทศจีน จนกระทั้งในปี พ.ศ. 2376 นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ชาร์ล แบบเบจ ได้ประดิษฐ์เครื่องวิเคราะห์ สามารถคำนวณค่าตรีโกณมิติ ฟังชั่นต่างๆทางคณิตศาสตร์
สามรถแบ่งยุคคอมพิวเตอร์ได้
5 ยุค
ยุคที่ 1 พ.ศ.2489-2502 เป็นการประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ใช่เครื่องคำนวณ
โดยเมาช์ลีและเอ็กเคอร์ต
ได้แนวความคิดนั้นมาประดิษฐ์เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมากเรียกว่า ENIAC
ยุคที่ 2 พ.ศ.2502-2506 มีการนำทรานซิสเตอร์มาใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์จึงทำให้เครื่องมีขนาดเล็กลง มีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ยุคที่ 3 พ.ศ.2507-2512 คอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มต้นภายหลังจากการใช้ทรานซิสเตอร์ได้เพียง
5 ปี
ได้มีการประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับวงจรรวม [Integrated-Circuit : IC ]
ยุคที่ 4 พ.ศ.2513-2532 เป็นยุคที่นำสารกึ่งตัวนำมาสร้างเป็นวงจรรวมความจุสูงมาก
สามรถย่อส่วนไอซีธรรมดาหลายๆวงจรเข้ามาในวงจรเดียวกัน ทำให้เครื่องเล็กลง
ราคาถูกลง และมีความสามารถในการทำงานสูงและรวดเร็ว
ยุคที่ 5 พ.ศ.2533-ปัจจุบัน
เน้นการพัฒนาความสามารถในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ให้ใช้งานง่าย
มีความสามารถสูงขึ้น รวมทั้งโครงการวิจัยและพัฒนาการเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์
เป็นหัวใจของการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ยุตนี้
ความหมายและความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เทคโนโลยี
เป็นคำที่มาจากภาษาละตินว่า TEXERE
มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า
To
weave แปลว่า สาน เรียบเรียง ถักทอ ปะติดปะต่อ และ Construct แปลว่า
สร้าง ผูกเรื่อง ส่วนเทคโนโลยี
ในรากศัพท์ภาษากรีกมาจากคำว่า Technologia แปลว่าการทำงานเป็นระบบ
สารสนเทศ
ปัจจุบันคำว่าสารสนเทศเข้ามามีบทบาทกับวงการต่างๆในสังคมและมักนิยมใช้ควบคู่กับเทคโนโลยีและเรียกเป็นคำเดียวกันว่า
เทคโนโลยีสารสนเทศ
สารสนเทศ
หมายถึง ข้อมูลที่ได้รับตีความ จำแนกแจกแจง จัดหมวดหมู่
หรือประมวลผลจนมีสาระอยู่ในตัวมันเอง
สามารถสื่อความหมายให้เกิดการเข้าใจกับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลนั้นและสามารถที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้
เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ
เช่น
1.ด้านวิชาการ
ช่วยในการค้นคว้าศึกษาแหล่งข้อมูล
2.การดำรงชีวิตประจำวัน
ช่วยให้มีความสะดวกคล่องตัว และรวดเร็ว
3.การดำเนินธุรกิจ
ทำให้มีการแข่งขันทางธุรกิจมากขึ้น
4.ด้านการติดต่อสื่อสาร
ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการต่างๆ และปรากฎการณ์โลกไร้พรมแดน
ทำให้คนในสังคมมีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
5.ด้านการผลิต
ระบบการทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือจะช่วยให้การทำงานได้มากขึ้น
และรวดเร็ว
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน
ความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการใหม่ๆก่อให้เกิด
เครื่องมือหรือวิธีการในการอำนวยความสะดวกในการให้บริการอย่างรวดเร็ว เช่น
การทำบัตรประชาชนสามารถให้บริการโดยการเชื่อมต่อ ระบบออนไลน์
ซึ่งเป็นระบบสายตรงที่มีประโยชน์มากและเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่จำเป็น
กระแสโลกาภิวัฒน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสาร
กระแสโลกาภิวัฒน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในปัจจุบันช่วยให้ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเราสะดวกสบายมากขึ้น
การเดินทางและการติดต่อสื่อสารระหว่างกันสามารถทำได้ง่ายขึ้น
มีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในงานทุกสาขาอาชีพ
คอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต
การศึกษาและการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศจะช่วยให้สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาในทุกๆด้าน
ในปัจจุบันเราสามารถสื่อสารระหว่างกันโดยการใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นที่สาม
หรือ 3G
ส่งสัญญาณเสียงและภาพพร้อมกัน โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและคอมพิวเตอร์
ทำให้เราสามารถเห็นภาพของคู่สนทนาไปพร้อมๆกัน
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีต่อสังคม
1.ช่วยให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการสื่อสารที่กว้างไกล
2.ช่วยทำให้วิทยาการต่างๆเจริญก้าวหน้าและทันสมัยอย่างรวดเร็ว
3.การรับรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของโลกเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว
4.สามารถเข้าถึงคลังข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก
5.สนับสนุนการทำงานและกระบวนการผลิต
6.ส่งเสริมระบบบริหารจัดการในรูปแบบใหม่
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
7.กระจายโอกาสด้านการศึกษาให้ผู้เรียนที่อยู่ห่างไกลสามารถเรียนรู้ผ่านการสอนทางไกลหรือผ่านดาวเทียม
8.สามารถเผยแพร่สารสนเทศและภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่สังคมโลกได้ง่าย
9.ช่วยให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ออกแบบบล็อกสวย อ่านง่าย
ตอบลบเรียบง่าย เข้าใจง่าย สะอาดตามาก
ตอบลบ